Why Electric Vehicles Cheaper? — EV ประหยัดกว่า

คนไทยส่วนหนึ่งเริ่มที่จะหันมาสนใจในเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากรถ EV นั้นมีสมรรถนะที่ดีกว่า สะดวกสบายมากกว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า และประหยัดกว่ารถยนต์สันดาปภายใน หรือ Internal Combustion Engine (ICE) ที่ใช้กันอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน
“หลายคนบอกว่าราคาของรถ EV แพงกว่ารถ ICE อยู่มาก “
แต่ทว่าราคานั้นเป็นแค่ราคาเริ่มต้นของรถเท่านั้นนะครับ ไม่ใช้ราคาที่บอกว่ารถชนิดใดคุ้มกว่ากัน ดังนั้น ในบทความนี้ ผมจะมาพูดถึงว่า โดยรวมแล้ว ทำไมรถไฟฟ้า EV ถึงประหยัดมากกว่ารถสันดาป ICE ในระยะยาว
สาเหตุที่รถยนต์ EV ประหยัดกว่ารถยนต์ ICE คือ
1. EV มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า
โดยปกติแล้วเครื่องยนต์สันดาปที่เป็นแบบลูกสูบ จะมีคุณลักษณะของประสิทธิภาพที่เป็นธรรมชาติ (Intrinsic Efficiency) ที่ต่ำมาก (ประมาณ 30% - 40%) ในขณะที่มอเตอร์ที่ใช้ในการขับเคลื่อนตัว EV สามารถทำประสิทธิภาพได้ถึง 90% - 99% เนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน
หรือพูดอีกแบบคือเราใส่พลังงานไปในเจ้า ICE 100 หน่วย แต่ได้กลับมาแค่ 30 หน่วย ในขณะที่เราใส่พลังงานไปที่เจ้า EV 100 หน่วย จะได้กลับมาถึง 99 หน่วย และนี่เป็นเหตุผลหลักที่่ทำไมรถยนต์ไฟฟ้า EV จึงประหยัดพลังงานกว่า รถยนต์สันดาป ICE
แล้วถ้าหากทำการเปรียบเทียบพลังงานที่ตัวรถยนต์กินนั้น จะเห็นว่ารถ EV จะยิ่งกินพลังงานน้อยกว่ารถ ICE มากเนื่องจาก น้ำหนักที่เบากว่าและประสิทธิภาพที่สูงกว่าของมอเตอร์ไฟฟ้าใน EV เมื่อเทียบกับเจ้า ICE
2. EV ใช้ไฟฟ้า (ไม่ใช้น้ำมัน)
เนื่องด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างหฤโหดของน้ำมันที่ใช้ในรถ ICE ทำให้คนส่วนมากในส่วนของ Transportation Sector เริ่มที่จะหาแหล่งพลังงานทางเลือกอื่น รถ EV ที่ใช้ไฟฟ้าจึงตอบโจทย์ในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าของเชื้อเพลิงได้อย่างดี
ยิ่งไปกว่านั้น การชาร์จพลังงานในตอนกลางคืนของรถ EV จะมีราคาถูกกว่าในตอนกลางวันเนื่องจากความต้องการการใช้พลังงานไฟฟ้าในตอนกลางคืนมีค่าต่ำ และการชาร์จตอนกลางคืนยังช่วยเฉลี่ยภาระของผู้ผลิตไฟฟ้าได้อีกด้วย ถ้าทำการ Optimize ดีๆ ราคาของไฟฟ้าจากฝ่ายผลิตก็สามารถถูกลงได้อีก

3. EV มีระบบ Start/Stop System
ในรถยนต์ไฟฟ้า EV จะมีระบบ Start/Stop เพื่อทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าหยุดทำงานในขณะที่ติดไฟแดงอยู่ในจารจร แต่ทว่าเครื่องยนต์จะต้องทำงานตลอดเวลาในขณะรถอยู่นิ่งในส่วนของรถยนต์ ICE
เนื่องจากเครื่องยนต์จะเสื่อมสภาพเร็วจากการ Start/Stop หลายๆครั้ง และในช่วง Very Low Speed หรือตอนที่เครื่องยนต์ทำงานตอนรถยนต์อยู่นิ่งนี้ เครื่องยนต์จะมีประสิทธิภาพที่ต่ำมากๆ ทำให้รถ ICE นี้เสียพลังงานมากกว่ารถ EV มาก นั่นคือรถ EV จะประหยัดพลังงานมากกว่ารถ ICE มากนั่นเอง
4. EV มีระบบ Regenerative Braking
เป็นระบบที่เอาพลังงานจลน์จากการเคลื่อนที่ของรถกลับมาใช ้เมื่อมีการเบรค ซึ่งโดยปกติในขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนที่อยู่ พลังงานที่เสียไปคือพลังงานในรูปแบบของความร้อนในระบบ ICE หากมีการเบรค
แต่ใน EV นั้น มอเตอร์จะทำหน้าที่เป็นตัวจ่ายพลังงานไปชาร์จไว้ในแบตเตอรี่ได้ในขณะที่รถเบรค และเราสามารถเอาพลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่มาใช้ใหม่ได้อีก ระบบ Regenerative Braking จึงเป็นอีกจุดแข็งหนึ่งของรถ EV ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้
5. EV ต้องการการซ่อมบำรุงน้อยกว่า
เนื่องจากรถยนต์ ICE มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่และองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมาย (มากกว่า 10,000 ชิ้น) ในขณะที่รถยนต์ EV มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่และองค์ประกอบอื่นๆน้อยมาก (รวมน้อยกว่า 30 ชิ้น) ทำให้ EV มีการซ่อมบำรุงน้อยกว่า ICE มาก
และถ้าเราดูจากข้อมูลข้างต้นนี้ ในอนาคต EV จะมีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า ICE อีกด้วยหลังจากมีการ Mass Production และใช้การ Optimization ในการผลิิต

ถ้ามองทางด้านความคุ้มทุน ก็เปรียบการซื้อรถเหมือนการลงทุน ซึ่งการลงทุนซื้อรถ EV ก็จะเหมาะสมกับนักลงทุนที่ชอบการลงทุนระยะยาว ที่ราคาเริ่มต้นของรถ EV อาจจะแพงกว่า (ในอนาคตราคาเริ่มต้นของ EV จะถูกกว่า ICE) แต่ถ้าใช้ไปเรื่อยๆ ก็จะมีความคุ้มทุนมากขึ้น ในขณะที่คนที่ชอบการลงทุนระยะสั้น ก็จะชอบรถ ICE มากกว่า แต่ถ้าใช้ไปนานๆ ก็จะเสียเปรียบคนที่ใช้รถ EV นั่นเอง
ถ้าชอบโพสนี้ และอยากได้อัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีของ EV ในอนาคต ก็สามารถกด Follow ได้เลยนะครับบ :)